ปลูกผมผู้หญิงวิธีใด? ถึงจะเหมาะกับคุณผู้หญิงมากที่สุด

ปลูกผมผู้หญิง

คุณหมอเชื่อว่ามีคุณผู้หญิงไม่ใช่น้อยที่กำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับหนังศีรษะ และเส้นผมไม่ใช่น้อย ทั้งปัญหาผมร่วง ผมบาง มากไปจนถึงปัญหาหนังศีรษะล้าน แต่มีคุณผู้หญิงอีกหลาย ๆ ท่านที่ไม่กล้าเลือกตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยการปลูกผมผู้หญิง เพราะได้ยินมาว่าจำเป็นต้องโกนศีรษะในบริเวณที่จะทำ

แต่หารู้ไม่ว่าด้วยนวัตกรรมที่พัฒนาก้าวหน้าขึ้น ทำให้มีวิธีการปลูกผมที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมถึงวิธีที่ไม่จำเป็นต้องโกนศีรษะ ซึ่งคุณหมอคาดว่าคุณผู้หญิงบางท่านอาจจะยังไม่รู้กัน วันนี้คุณหมอจะมาแนะนำให้คุณผู้หญิงทุกท่านรู้จักกับการปลูกผมผู้หญิงที่เป็นเทคนิคเฉพาะ คลายทุกความกังวลใจของคุณลงไปได้ค่ะ

ทำความรู้จัก การปลูกผมในผู้หญิง 

ปลูกผมผู้หญิง (Female Hair Transplant) คือ การแก้ปัญหาหนังศีรษะ หรือเส้นผมในสุภาพสตรี อย่างปัญหาเส้นผมร่วง ผมบาง ศีรษะเถิก หนังศีรษะล้าน ปิดแผลบนหนังศีรษะ ปรับกรอบหน้า ด้วยการปลูกผม โดยการนำเซลล์ผมเข้าไปปลูกในบริเวณที่ศีรษะต้องการเพิ่มเส้นผมนั่นเองค่ะ 

ปัญหาผมร่วง ผมบางในผู้หญิง

การที่คุณผู้หญิงต้องการปลูกผมนั้น อาจจะมีปัญหาศีรษะหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันไป เช่น

• ศีรษะเถิก หน้าผากสูง ศีรษะล้านด้านหน้า
• ผมบางทั้งศีรษะ
• ผมบางบางบริเวณ
• ผมหายบางส่วน เพราะเกิดจากเป็นแผลเป็น
• ผมร่วงจากผลข้างเคียงของยา หรือโรคบางอย่าง

ซึ่งลักษณะอาการเหล่านี้ อาจจะเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุที่ส่งผมต่อปัญหาหนังศีรษะ และเส้นผม ตามปัจจัยภายนอก และภายใน ดังนี้

• การใช้ยา หรือสารเคมีบางประเภท
• โรค หรือการรักษาโรคบางอย่าง
• แผลเป็น
• การติดเชื้อบางชนิดบนหนังศีรษะ
• ความร้อนจากอุปกรณ์ทำผม
• การดึงรั้งเส้นผมเป็นเวลานาน
• กรรมพันธุ์ และฮอร์โมน
• ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ
• ความเครียด

เทคนิคปลูกผมผู้หญิงมีกี่แบบ

ปลูกผมผู้หญิงในบริเวณต่าง ๆ ทั้งด้านหน้า กลางหัว หรือด้านหลัง อาจจะเหมาะกับเทคนิคการปลูกผมผู้หญิงที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ค่ะ ว่าแพทย์พิจารณาว่าคนไข้แต่ละท่านควรจะใช้เทคนิคแบบใด

โดยหลัก ๆ ที่เป็นวิธีที่นิยมมีรีวิวปลูกผมผู้หญิงมากมี ดังนี้

ปลูกผมผู้หญิง แบบ Strip FUT 

ปลูกผมผู้หญิง แบบ Strip FUT คือหนึ่งในวิธีปลูกผมที่นำเอากอรากผมพร้อมกับหนังศีรษะชั้นบนบางส่วน แล้วนำชิ้นส่วนไปตัดแยกกอรากผมออกจากกันภายใต้กล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูง แล้วจึงนำไปปลูกลงในตำแหน่งที่ต้องการ

คุณผู้หญิงที่ปลูกผมแบบนี้ก็จะได้กอผมที่แข็งแรง มีโอกาสปลูกผมติดสูง นิยมทำกันในคุณผู้หญิงที่มีผมบาง เพราะไม่ทำให้ผมในบริเวณส่วนท้ายทอยที่ตัดออกไปเป็นชิ้นส่วนมีปริมาณผมน้อยลง

แต่ในทางกลับกันเนื่องจากวิธีนี้มีการตัดหนังศีรษะออกบางส่วน ทำให้อาจทิ้งแผลเล็ก ๆ ไว้ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หากไม่ได้โกนผม หรือตัดผมสั้นติดหนังศีรษะ ก็แทบจะมองไม่เห็นเลยค่ะ เพราะฉะนั้นคุณผู้หญิงที่ปลูกผมด้วยวิธีนี้แล้วผมยาว ไม่ต้องเป็นห่วงเลยนะคะ ไม่สังเกตเห็นแผลแน่ ๆ ค่ะ

ปลูกผมผู้หญิง แบบ Long Hair FUE 

ปลูกผมผู้หญิง แบบ Long Hair FUE เป็นวิธีปลูกผมผู้หญิงที่เป็นที่นิยม เพราะไม่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่ใช้การเจาะรากผมด้วยเครื่องเจาะไฟฟ้าแทน เพื่อนำแค่ตัวกอรากผมออกมา แล้วจึงนำรากผมเหล่านั้นไปปลูก

วิธี Long Hair FUE ยังมีข้อดีอื่น ๆ อีกมากมายที่คุณผู้หญิงจะถูกใจ เพราะในขั้นตอนเจาะรากผม แพทย์จะเจาะรากผมออกมานั้นไม่ต้องโกนผมให้สั้น ทำให้ปลูกเสร็จผมก็ยาวเลย ไม่เป็นตอเหมือนแบบ Strip FUT ทำให้ผลลัพธ์ดูธรรมชาติ ผมยาวง่ายเป็นทิศทาง และไม่ทิ้งแผลไว้เหมือนการผ่าตัด

แต่ทั้งนี้วิธีปลูกผมผู้หญิง Long Hair FUE ราคาอาจจะสูงกว่าวิธีอื่น ๆ เพราะใช้เวลาทำนาน และมีขั้นตอนการทำที่ยุ่งยากกว่า แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ดี และลดผลข้างเคียงหลังปลูกผม จึงถือว่าเป็นวิธีคุ้มค่าการลงทุนมากเลยค่ะ

วิธีการปลูกผมผู้หญิง

หากคุณผู้หญิงมีความสงสัยว่าวิธีการปลูกผมผู้หญิงนั้นมีขั้นตอนอย่างไร เพื่อจะได้เตรียมตัวสำหรับเข้ารับการปลูกผมได้อย่างพร้อมมากที่สุด

โดยวิธีการปลูกผมผู้หญิงมีขั้นตอน ดังนี้

• คุณหมอจะพูดคุยกับผู้รับบริการ เพื่อวางแผน ออกแบบ แล้วจึงวาดแนวผมตามที่ต้องการปลูก โดยพิจารณาจากรูปหน้า แนวเส้นผม พร้อมกับแบบที่ผู้รับบริการเตรียมมา
• ถึงขั้นตอนการเตรียมเส้นผม หากคุณผู้หญิงเข้ารับบริการการปลูกผมแบบ Strip FUT คุณหมอจะโกนผม หรือตัดผมส่วนท้ายทอยให้สั้น เพื่อเตรียมรับการผ่าตัด
• แต่หากคุณผู้หญิงเข้ารับบริการด้วยวิธีการปลูกผมแบบ Long Hair FUE ผู้รับบริการไม่จำเป็นต้องโกนผม แพทย์จะรวบผมแค่บางส่วนเท่านั้น
• ในขั้นตอนของ Long Hair FUE คุณหมอจะฉีดยาชาในบริเวณท้ายทอยที่ต้องการเลือกผมไว้ คุณหมอจะเจาะกอรากผมด้วยเครื่องเจาะไฟฟ้าออกมา
• ซึ่งกอรากผมที่ถูกเอามารอภายนอกร่างกายที่รอจะนำไปปลูก จะถูกเอาไปแช่น้ำยาแบบเดียวกับน้ำยาปลูกถ่ายอวัยวะ เพื่อให้เซลล์รากผมอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด
• คุณหมอจะใช้ปากกาปลูกผม (Implanter) เพื่อนำปลูกผมให้ติดมากที่สุด และรากผมช้ำน้อยที่สุด

การเลือกวิธีการปลูกผมผู้หญิง ให้เหมาะกับตัวเอง

คุณหมอขออนุญาตแนะนำคุณผู้หญิงเพิ่มเติมนะคะ เพราะว่าคุณผู้หญิงแต่ละท่านมีสภาพหนังศีรษะ เส้นผม และปัญหาที่เผชิญแตกต่างกันไป ทำให้การเลือกวิธีการปลูกผมผู้หญิงแต่ละท่านจะไม่เหมือนกันค่ะ ซึ่งสาว ๆ อาจจะพิจารณาได้จากปัจจัยเหล่านี้

ไม่ใช่ว่าคุณผู้หญิงทุกคนจะปลูกผมได้นะคะ อย่างแรกเลยคุณผู้หญิงควรเข้ารับการปรึกษากับคุณหมอก่อน เพราะคุณผู้หญิงบางท่านอาจจะมีผมบาง ไม่เพียงพอต่อการนำมาตัดเนื้อเยื่อมาปลูก หนำซ้ำหากมีโรคบางชนิด หรือใช้ยาบางอย่างอาจจะทำให้มีผลต่อการติดของรากผม

ต่อมาให้พิจารณาจากวิธีการปลูกผม หากต้องการผมปริมาณมาก อาจจะแนะนำเป็นวิธี FUT เพราะมีโอกาสที่ผมจะปลูกติดง่าย แต่ก็แลกด้วยการทิ้งแผลผ่าตัดเอาไว้ แต่หากเลือกทำด้วยวิธี FUE คุณผู้หญิงจะไม่ต้องกังวลเรื่องการโกนผม ให้เสียความมั่นใจ

ปัญหาแบบไหน ควรผ่าตัดปลูกผมผู้หญิง 

ปัญหาหนังศีรษะ หรือเส้นผมเหล่านี้ที่คุณผู้หญิงเผชิญอยู่นี้ สามารถแก้ปัญหาให้บรรเทาลงไปได้ด้วยการใช้เทคนิคการปลูกผมผู้หญิง ซึ่งปัญหาหลัก ๆ ที่คุณผู้หญิงมักจะมาเข้ารับการปลูกผมผู้หญิง ได้แก่

• หัวเถิก หน้าผากกว้าง
• ผมร่วงจากการใช้ความร้อน หรือสารเคมี
• ผมร่วงหลังคลอด
• ผมบาง ผมร่วงจากพันธุกรรม

ข้อดีและข้อจำกัดในการผ่าตัดปลูกผมผู้หญิง 

ถ้าคุณผู้หญิงหลาย ๆ ท่านยังมีความกังวลใจ ยังลังเลว่าควรลงทุนไปกับการปลูกผมผู้หญิงหรือไม่ ลองมาดูคุณหมอพูดถึงข้อดีข้อเสียของการปลูกผมผู้หญิงเสียหน่อย เผื่อคุณผู้หญิงจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะคะ

ข้อดีในการปลูกผมผู้หญิง

• แก้ปัญหาศีรษะเถิก
• ปกปิดรอยแผลเป็นบนหนังศีรษะ
• แก้ปัญหาผมบาง
• ช่วยให้ผมดูหนาขึ้น
• สร้างกรอบผมรอบใบหน้า ให้หน้าดูเล็กลง
• ทำแนวเส้นให้ดูสมมาตรมากขึ้น
• สร้างไรผมธรรมชาติ
• สร้างความมั่นใจ

ข้อจำกัดในการปลูกผมผู้หญิง

• ผู้มีปัญหาผมบางขั้นเริ่มต้น ไม่แนะนำให้ทำ
• หากผมบริเวณท้ายทอยบาง ไม่แข็งแรง จะทำไม่ได้
• ใช้เวลาในการรักษาและพักฟื้น อย่างน้อย 2 วัน 1 วันในการรักษา อีกหนึ่งวันในการพักฟื้น
• คุณผู้หญิงที่จะปลูกผม FUT ศีรษะที่ยืดหยุ่น
• หากกำลังรักษาโรคบนหนังศีรษะ หรือมีการติดเชื้อที่หนังศีรษะ ควรรักษาให้หายก่อน

การเตรียมตัวก่อนปลูกผมผู้หญิง

เมื่อคุณผู้หญิงตัดสินใจที่จะทำการปลูกผมแล้ว ก่อนที่จะเข้ารับการรักษา คุณผู้หญิงจำเป็นจะต้องทำการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษาด้วยค่ะ โดยคุณผู้หญิงสามารถเตรียมตัวได้ตามวิธี ดังต่อไปนี้

• หากมีโรคประจำตัว หรือใช้ยาเป็นประจำ ให้แจ้งคุณหมอก่อนทุกครั้ง
• ควรหยุดรับประทานยา หรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อง 1 สัปดาห์ก่อนปลูกผม เช่น
  • พลาวิกซ์ (Plavix)
  • แอสไพริน (Aspirin)
  • วิตามินอี (Vitamin E)
  • น้ำมันปลา (Fish oil)
  • โสม แปะก๊วย หรือสมุนไพรอื่นๆ 
  • ยาปลูกผมผู้หญิงที่มีตัวยา Minoxidil 
• หากเป็นโรคความดันสูง หรือกำลังใช้ยา Beta Blocker ควรแจ้งคุณหมอก่อน
• งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ ก่อนปลูกผมอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
• หากจำเป็นต้องทำสีผม ดัดผม หรือยืดผม ต้องทำก่อนการปลูกผมอย่างน้อย 1 วัน
• พักผ่อนอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
• คืนก่อนการปลูกผม และเช้าในวันปลูกผม ให้สระผมด้วย Betadine scrub หรือ Hibitane scrub
• ในวันที่ปลูกผม ให้สวมเสื้อผ่าหน้า หรือเสื้อหลวม ๆ สบาย ๆ เพื่อไม่ให้กระทบศีรษะ ขณะสวมหรือถอดเสื้อ
• งดดื่มชา กาแฟก่อนปลูกผม
• เนื่องจากระหว่างปลูกผมมีการใช้ยานอนหลับควรนำผู้ดูแลมาด้วย ไม่ควรขับรถเอง

วิธีการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดปลูกผมผู้หญิง

เพื่อให้คุณผู้หญิงได้ผลลัพธ์ในการปลูกผมดีที่สุด และกอรากผมติดมากที่สุด ไม่ให้หลุดลอกออก คุณผู้หญิงจำเป็นต้องดูแลตนเอง และหนังศีรษะให้ดี อย่างเคร่งครัด

• หลังปลูกผม 24 ชั่วโมง ไม่ควรจับ หรือยุ่งกับศีรษะ เพราะรากผมยังไม่เชื่อมกับหนังศีรษะ
• เมื่อครบ 1 วัน แพทย์จะให้มาทำความสะอาดแผล และสระผมที่คลินิก 
• วิธีการทำความสะอาดเส้นผม มีดังนี้
  • ใช้น้ำอุณหภูมิปกติ
  • ขยี้แชมพูบนฝ่ามือให้เกิดฟอง และแปะลงบนหนังศีรษะทิ้งไว้ 2 – 3 นาที ห้ามถู ขยี้หนังศีรษะเป็นอันขาด แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด
  • ซับผมเบา ๆ หรือใช้ไดร์ลมเย็นในระดับความแรงต่ำสุด
  • สระผม เป่าไดร์ผมบริเวณอื่นได้ตามปกติ ยกเว้นบริเวณแผลที่ท้ายทอย
  • หลังจากปลูกผม 1 เดือน สามารถสระผมได้ตามปกติ
  • สามารถหวีผมได้ตามปกติ แต่อย่าหวีแรงเกินไป อาจจะทำให้รากผมหลุดได้
• หลังปลูกผมควรนอนหงาย หรือนอนตะแคง ห้ามนอนคว่ำ เพื่อไม่ให้ส่วนที่ปลูกผมกระทบกับหมอน
• ควรนอนหมอนในระดับสูง ไม่ให้แผลบวม หรือเลือดออก
• ระวังอย่าให้ของแข็งกระทบศีรษะ
• ห้ามก้มตัวหยิบของ ให้ย่อตัวลงแทน เพื่อไม่ให้เลือดลงศีรษะมากเกินไป จนดันรากผมให้หลุดออก
• งดอยู่ในที่กลางแจ้ง หรือชุมชนที่มีฝุ่นควันมาก
• งดดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่หลังปลูกผม 48 ชั่วโมง
• งดออกกำลังกาย 1 สัปดาห์
• งดว่ายน้ำ และซาวน่า 1 เดือน
• ขณะแผลเริ่มสมานอาจจะคันได้ ให้เลี่ยงที่จะเกา ใช้การแตะเบา ๆ หรือทายาแทน

ปลูกผมผู้หญิง เจ็บไหม

คุณหมอเชื่อว่าในการปลูกผมผู้หญิง คงมีคุณผู้หญิงหลาย ๆ ท่านที่ก็คงยังมีความกังวลใจไม่ใช่น้อย เพราะว่าอาจจะมีความรู้สึกว่าการปลูกผมนั้นจะต้องมีความเจ็บมาก แต่ในความจริงแล้วการปลูกผมผู้หญิงไม่ได้มีความเจ็บขนาดนั้น เนื่องจากในการปลูกผม มีการใช้ยานอนหลับ หรือยาชาร่วมด้วย ขณะปลูกผม ทำให้เมื่อยาออกฤทธิ์แล้ว จะไม่มีความเจ็บระหว่างทำการรักษา

ถึงแม้ความรู้สึกเจ็บของแต่ละคนจะไม่เท่ากัน แต่เมื่อทำการสำรวจระดับความเจ็บ วัดผลออกมาว่าในการปลูกผมระดับความเจ็บอยู่ที่ประมาณระดับ 2 – 3 ของสเกลเต็ม 10 ระดับ ซึ่งอาการเจ็บปวดจากการปลูกผมไม่ได้อยู่ตลอด จะเจ็บต่อเมื่อมีการขยับเขยื้อนร่างกาย 

แต่คุณผู้หญิงไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เพราะขณะทำการปลูกผม จะมีการใช้ยานอนหลับ ยาชาร่วมด้วย รวมถึงหลังทำการรักษาเสร็จ ถึงแม้ยานอนหลับ หรือยาชาหมดฤทธิ์ คุณหมอก็จะมีการจ่ายยาแก้ปวดให้อยู่แล้วค่ะ

รู้ก่อนทำจริง ปลูกผมเจ็บไหม? เรื่องกังวลที่ไม่น่ากังวลอีกต่อไป : ปลูกผมเจ็บไหม

ปลูกผมผู้หญิง ราคาเท่าไหร่ 

ในการปลูกผมผู้หญิง ราคาจะแตกต่างกันไป ตามแต่ละปัจจัยอย่างบริเวณที่ต้องการปลูกผม และจำนวนเส้นผมที่มีอยู่ในบริเวณเดิม เพื่อจะได้พิจารณาว่าจำเป็นต้องใช้จำนวนกราฟท์กอรากผมที่ใช้ในการปลูกผมเท่าไหร่ โดยทั่วไปแล้ว คลินิกปลูกผมที่ใช้วิธี Long Hair FUE ราคาจะค่อนข้างสูง ด้วยเทคนิคที่ยาก และซับซ้อนกว่า แต่ให้ผลลัพธ์ที่ดี จึงมีราคาอยู่ตั้งแต่ช่วง 100,000 – 300,000 บาท ขึ้นกับเรทราคาของแต่ละคลินิก หรือถ้าคิดพิจารณาตามจำนวนกราฟท์เส้นผม มักจะอยู่ที่ประมาณ 100 -150 บาทต่อกราฟท์ เช่นเดียวกับ Dr. Tarinee Hair Clinic ที่อยู่ในเรทเริ่มต้นกราฟท์ละ 100 บาท หรือประมาณ 69,000 บาท

คลินิกปลูกผมผู้หญิง ที่ไหนดี

ปลูกผมผู้หญิงที่ไหนดี? เป็นคำถามที่เกิดขึ้นในใจคุณผู้หญิงหลาย ๆ ท่านแน่ เพราะในปัจจุบันมีคลินิกปลูกผมอยู่มากมาย ยากที่คุณผู้หญิงจะตัดสินใจ แต่การปลูกผมนั้น เพื่อปลอดภัย ไม่ให้เกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ หรือให้เกิดผลลัพธ์ที่ตรงใจที่สุด 

จำเป็นต้องพิจารณาอย่างมากตั้งแต่ความสะอาด ความน่าเชื่อถือของคลินิก รวมไปถึงประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญของคุณหมอ หนึ่งในคลินิกที่ตรงกับเกณฑ์ที่กล่าวมาข้างต้น จะเป็นที่ไหนเลยไม่ได้ นั่นก็คือ Dr. Tarinee Hair Clinic ที่เป็นคลินิกที่น่าเชื่อถือ คุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมดูแลคนไข้เองทุกเคสเลยค่ะ

รีวิว ปลูกผมผู้หญิงที่ Dr.Tarinee Hair Clinic

Dr. Tarinee Hair Clinic คลินิกปลูกผมชั้นนำ ดูแลเองทุกเคสกับคุณหมอธาริณี ก่อกิริยกมล หรือ หมอแก้ว แพทย์เฉพาะทางต่อยอด โรคเส้นผม และการผ่าตัดปลูกถ่ายผม จากทางโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งคุณหมอแก้วถือว่าเป็นคุณหมอฝีมือดี มากประสบการณ์ โดยมีประสบการณ์การทำงานกว่า 15 ปี และดูแลด้านเส้นผมมากกว่า 3,000 เคส

หากคุณเลือกตัดสินใจปลูกผมผู้หญิงที่นี่ หมอขอการันตีว่าคุณผู้หญิงจะไม่ผิดหวังเลยค่ะ เพราะที่ Dr. Tarinee Hair Clinic คุณหมอแก้วจะดูแลคนไข้ทุกรายเองตั้งแต่เริ่มต้นให้ความปรึกษา ไปจนถึงดูแลคนไข้หลังการปลูกผม ที่สำคัญคุณหมอใจดี สอบถามได้ทุกคำถาม และมีการรักษา ครอบคลุม ทั้งยารับประทาน ยาทา และเครื่องมือการรักษาอย่างครบวงจร และได้มาตรฐาน

คำถามที่พบบ่อย

สรุปการปลูกผมผู้หญิง

เพียงเท่านี้คุณผู้หญิงหลาย ๆ ท่านก็คงสบายใจแล้วนะคะ ว่าการปลูกผมผู้หญิงไม่ได้น่ากลัวขนาดที่คิดไว้ เพราะมีแนวทางการรักษาใหม่ ๆ ที่คุณผู้หญิงไม่จำเป็นต้องโกนผมให้เสียความมั่นใจแล้วนะคะ

และท้ายที่สุดนี้ถ้าผู้อ่านคนไหนสนใจที่อยากเข้ามาปรึกษาเรื่องปัญหาเส้นผม ปัญหาหนังศีรษะ หรือคิ้วบาง กับคุณหมอแก้ว สามารถติดต่อ Dr.Tarinee Hair Clinic ได้ที่อาคาร Move Amaze ชั้น 2 ติดถนนใหญ่ลาดพร้าว ปากซอยลาดพร้าว 19 วันอังคาร – อาทิตย์ เวลา 8.00 – 19.00 น.

ขอบคุณข้อมูลจาก
Female Hair Transplant | PA | The Griffin Hair Restoration Center. (n.d.). https://hairrestorationphilly.com/female-transplant/

American Society of Plastic Surgeons. (n.d.-a). Hair Transplant for Women. https://www.plasticsurgery.org/cosmetic-procedures/hair-transplantation-and-restoration/women

Surgical Hair Restoration for Women. (2005, August 25). WebMD. https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/hair-loss/women-hair-restoration