ปัญหาผมบาง ผมร่วง ศีรษะล้าน หรือหัวเถิกเป็นปัญหาที่สร้างความกังวลและทำให้หลาย ๆ คนสูญเสียความมั่นใจ ถึงแม้จะรักษาด้วยการใช้แชมพูเร่งผมหนา ยาแก้ผมร่วงแล้วก็ตามก็ยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่เห็นชัดมากนัก อีกทางออกสำหรับผู้ที่มีปัญหาเหล่านี้ช่วยให้ผมขึ้นได้จริงและขึ้นอย่างถาวรคือการศัลยกรรมปลูกผมนั่นเองค่ะ
แต่การปลูกผมก็เป็นหนึ่งในหัตถการที่ต้องดำเนินการด้วยแพทย์เฉพาะทาง อีกทั้งเพราะเป็นหัตถการศัลยกรรมจึงมีข้อควรทราบก่อนตัดสินใจทำ ในบทความนี้คุณหมอจะมาแนะนำการปลูกผม แก้ไขปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านให้คุณได้เข้าใจมากขึ้นเพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ
ปลูกผม คืออะไร
ปลูกผม (Hair Transplant) คือ การปลูกถ่ายประเภทหนึ่ง โดยนำเซลล์ต้นกำเนิดผมที่อยู่บริเวณรากผมจากท้ายทอยซึ่งเป็นบริเวณที่แข็งแรงและไม่มีอิทธิพลของฮอร์โมนมาเกี่ยวข้องมาปลูกไปยังบริเวณที่ต้องการแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือนำมาใช้เพิ่มแนวไรผมให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ละมุนขึ้นค่ะ
ผมที่ขึ้นมาใหม่หลังจากปลูกผมจะคงอยู่อย่างถาวรที่ถึงแม้จะถูกโกน ถอน หรือตัดออกก็ยังสามารถกลับมางอกใหม่ได้เช่นเดียวกับเส้นผมปกตินั่นเอง
นอกจากนี้การปลูกผมยังไม่จำกัดเฉพาะการแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือการเพิ่มตำแหน่งแนวไรผมเพื่อปรับรูปหน้าเท่านั้น แต่ยังสามารถทำทับตำแหน่งรอยแผลเป็นบริเวณคิ้ว หนวดหรือบนหนังศีรษะที่แหว่งไปเพื่อปกปิดได้เช่นกัน
การปลูกผมเป็นหนึ่งในการศัลยกรรมตกแต่งที่ใช้วัตถุดิบอย่างเซลล์ต้นกำเนิดผมจากร่างกายของคนไข้เอง ไม่ได้ใช้จากผู้อื่นหรือผมสังเคราะห์ จึงทำให้มีโอกาสที่จะเกิดการต่อต้านผมใหม่ได้น้อยมากนั่นเองค่ะ
ข้อควรรู้ ก่อนตัดสินใจปลูกผม
ก่อนจะตัดสินใจทำหัตถการปลูกผมเพื่อแก้ไขปัญหาผมร่วง ผมบางควรจะทราบก่อนว่า มีทั้งข้อดีและข้อจำกัด ในหัวข้อนี้คุณหมอได้รวบรวมข้อดีและข้อจำกัดไว้ให้คนไข้ได้พิจารณาก่อนตัดสินใจทำค่ะ
ข้อดีในการปลูกผม
- เป็นหัตถการที่คนไข้จะเจ็บตัวน้อย
- แก้ผมร่วง ผมบางตามวัย หรือจากกรรมพันธุ์ได้
- แก้ไขปัญหาผมแหว่งจากแผลเป็นโดยการนำเซลล์ต้นกำเนิดไปปลูกทับได้
- เป็นวิธีที่ปลอดภัย ผลข้างเคียงต่ำ
- สามารถปรับรูปหน้าในผู้ที่มีปัญหาหน้ากว้าง หน้าผากเถิกให้ดูแคบและละมุนขึ้น
- ผมที่เกิดใหม่ด้วยการปลูกผมจากเซลล์ต้นกำเนิดจะสามารถเจริญเติบโตได้ยาว หลุดร่วงและกลับมางอกใหม่เช่นเดียวกับเส้นผมปกติ ให้ผมดูเป็นธรรมชาติที่สุด
- การปลูกผม FUE, FUT เป็นหัตถการที่ทำเพียงครั้งเดียวก็สามารถให้เส้นผมกลับมาใหม่ได้ตลอด
อ่านเพิ่มเติม : ปลูกผมลงในแผลเป็น
ข้อจำกัดในการปลูกผม
- ไม่เหมาะกับคนไข้ที่ผมร่วง ผมบางด้วยสาเหตุจากโรคทางเส้นผมและหนังศีรษะหรือโรคที่มีผลต่อการเกิดของเส้นผม เช่น แพ้ภูมิตัวเอง เส้นผมและหนังศีรษะที่มีการอักเสบ เป็นต้น
- หลังจากทำเสร็จ คนไข้จะต้องระวังและดูแลตนเองอย่างดี เนื่องจากในช่วงแรกที่ปลูกลงไปยังไม่ติดดีและมีความเสี่ยงที่จะหลุดออกได้ค่ะ หากผมที่ปลูกผมไปหลุดออกก็จะทำให้บริเวณนั้นไม่มีผมขึ้นใหม่นั่นเอง
- สามารถทำได้ก็ต่อเมื่อมีเซลล์ต้นกำเนิดผมที่แข็งแรงอยู่จำนวนที่มากพอเท่านั้น หากเป็นคนไข้ที่มีภาวะผมร่วงเป็นหย่อม ผมร่วงผมบางทั่วศีรษะอาจไม่สามารถทำหัตถการนี้ได้
การปลูกผมเหมาะกับใครบ้าง
การปลูกผมเป็นหัตถการที่เหมาะกับใครบ้าง?
- คนไข้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางที่ก่อให้เกิดความไม่สบายใจและเป็นที่กังวลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
- คนไข้ที่มีปัญหาหน้าผากเถิก หน้าผากกว้างและเป็นลักษณะที่คนไข้ไม่ต้องการ
- คนไข้ที่ต้องการปลูกผมเพื่อปกปิดรอยแผลเป็น
- คนไข้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ละมุนขึ้น
ใครบ้างที่ไม่ควรปลูกผม
การปลูกผมมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ทำให้คนไข้อีกหลาย ๆ คนที่มีปัญหาลักษณะนี้ไม่เหมาะกับหัตถการนี้
- คนไข้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางทั่วศีรษะ เนื่องจากจะทำให้มีจำนวนกราฟท์ผมไม่เพียงพอต่อการนำไปปลูกผมและทำให้บริเวณที่นำผมออกบางลงได้
- คนไข้ที่มีการอักเสบบนหนังศีรษะและโรคยังอยู่ในช่วงกำเริบ เช่น หนังแข็ง ผมร่วงเป็นหย่อม ผมร่วงจากพังผืดใต้ผิว เป็นต้น
- คนไข้ที่มีโรคประจำตัวที่เป็นสาเหตุของการหลุดร่วงของเส้นผม เช่น แพ้ภูมิตัวเอง
- คนไข้โรคมะเร็งที่อยู่ในช่วงการรักษา
- คนไข้ที่ติดเชื้อบนหนังศีรษะหรือติดเชื้อในกระแสเลือด
- คนไข้ที่มีภาวะเลือดหยุดไหลยาก
- คนไข้สตรีมีครรภ์และกำลังให้นมบุตร
ปลูกผม เจ็บไหม มีรอยแผลเป็นไหม
คนไข้หลายคนมักกังวลว่าการปลูกผมเจ็บไหม? สำหรับการปลูกผมที่อาจต้องมีการย้ายเซลล์ต้นกำเนิดนั้นอาจต้องมีการเจาะ หรือการผ่าตัด (สำหรับปลูกผม FUT) แต่อย่างไรก็ตามก่อนจะทำหัตถการแพทย์จะให้ยาชาเฉพาะจุดแก่คนไข้ ในระหว่างการปลูกผมคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บใด ๆ
ส่วนการปลูกผม LLLT นั้นคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บเลยเนื่องจากเป็นเพียงการฉายแสงกระตุ้นการไหลเวียนเลือดบริเวณหนังศีรษะเท่านั้น
การทำหัตถการทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นหัตถการที่ค่อนข้างปลอดภัย ผลข้างเคียงน้อย ดังนั้นคนไข้จึงไม่ต้องกังวลถึงอาการเจ็บหรือความปลอดภัยค่ะ หรือหากมีข้อสงสัยหรือมีความผิดปกติอะไรก็สามารถสอบถามแพทย์ได้ตลอด
ปลูกผม มีวิธีไหนบ้าง มีความแตกต่างกันอย่างไร
การปลูกผมเพื่อแก้ไขปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านสามารถแบ่งออกเป็น 2 วิธีใหญ่ ๆ คือการปลูกผม FUE และการปลูกผม FUT ค่ะ และสำหรับการปลูกผม FUE ก็ยังสามารถแบ่งย่อยตามเทคนิคที่เฉพาะลงไปได้อีก ในหัวข้อนี้คุณหมอจะพาไปดูกันว่าการปลูกผมมีวิธีอะไรบ้าง แต่ละวิธีต่างกันอย่างไรค่ะ
ปลูกผม FUE
ปลูกผม FUE เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยมีจุดเด่นในเรื่องการคัดแยกเซลล์ต้นกำเนิดผมและปลูกผมกลับไปยังบริเวณที่ต้องการแก้ไขปัญหาได้โดยไม่ต้องเปิดแผลใหญ่ค่ะ แพทย์จะใช้เครื่องมือที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กมาก ๆ เพียงประมาณ 0.6-1.0 มิลลิเมตรในการเจาะนำเอาเซลล์ต้นกำเนิดผมออกมาทีละกอแล้วค่อยนำกราฟท์ผมนี้ปลูกกลับไปยังบริเวณที่ต้องการ ทำให้คนไข้ไม่มีแผลเป็นใหญ่ ไม่ต้องพักฟื้น ฟื้นตัวได้เร็วค่ะ
ข้อดีของการปลูกผม FUE
- เป็นวิธีที่ไม่ต้องสร้างแผลยาว คนไข้ฟื้นตัวได้เร็วกว่า
- หลังปลูกผมจะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นที่ชัดเจน ผมที่ขึ้นใหม่จะดูเป็นธรรมชาติมาก
ข้อควรระวังของการปลูกผม FUE
- คนไข้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านในพื้นที่กว้าง และใช้จำนวนมากกว่า 4,000 กราฟท์ไม่เหมาะที่จะใช้วิธีนี้เนื่องจากจะทำให้ผมบริเวณท้ายทอยบางลง
- ต้องใช้ความชำนาญของแพทย์มากกว่าวิธีอื่น แพทย์จะต้องมีประสบการณ์และมีความอดทนมากเนื่องจากเป็นวิธีที่ใช้เวลานานและต้องการความละเอียดสูง
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางทั่วศีรษะ เนื่องจากบริเวณที่เจาะนำผมออกจะไม่กลับขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ทำให้บริเวณนั้นบางลงค่ะ
- อาจต้องโกนผมบริเวณที่ต้องการเก็บเกี่ยวผมเพื่อให้สามารถเจาะผมง่ายขึ้น
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ปลูกผม FUE
ปลูกผม Long hair FUE
การปลูกผม FUE เป็นวิธีที่ช่วยลดภาระในการพักฟื้นให้คนไข้ได้ค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้สามารถเก็บเกี่ยวผมได้สะดวกแพทย์อาจต้องโกนผมบริเวณนั้น ๆ ไปทำให้ผมอาจดูแหว่งชั่วคราวได้
จึงมีอีกวิธีที่ทำให้หลังรักษาคนไข้จะมีผมที่ดูยาวเป็นธรรมชาติที่สุดอย่าง Long hair FUE ซึ่งต่างจากการปลูกผม FUE คือจะไม่มีการโกนผมแต่จะเจาะแยกผมออกทั้ง ๆ ที่เส้นผมยาวเลยค่ะ ซึ่งวิธีนี้ต้องอาศัยเครื่องมือที่ดีและความชำนาญของแพทย์อย่างมากเพื่อไม่ให้เส้นผมขาดไประหว่างการเก็บเกี่ยว และเพื่อให้สามารถได้ผมในสภาพที่ดีที่สุดสำหรับการนำกลับไปปลูกผมนั่นเอง
อีกทั้งหลังปลูกผม Long hair FUE คนไข้จะไม่ต้องกังวลเรื่องผมสั้นจากการถูกโกนออกไปบางส่วนเนื่องจากเส้นผมที่นำมาปลูกเป็นเส้นผมยาวอยู่แล้วค่ะ
ข้อดีของการปลูกผม Long hair FUE
- ไม่ต้องโกนผมคนไข้ ทำให้ผมบริเวณที่เจาะไม่ดูแปลกและบริเวณที่ปลูกกลับไปจะดูยาวทันที
- เหมาะกับคนไข้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้นและต้องพบปะผู้คนตลอด เพราะเป็นที่สังเกตได้ยากว่าผมผ่านการปลูกผมมา
ข้อควรระวังของการปลูกผม Long hair FUE
- ต้องใช้ความเชี่ยวชาญของแพทย์เป็นอย่างมาก ต้องการใช้ความละเอียดร่วมกับเครื่องมือพิเศษโดยเฉพาะ
- ใช้เวลาในการทำนานกว่าการปลูกผม FUE เนื่องจากแพทย์จะต้องระวังในการเจาะผมเป็นพิเศษ
- ไม่เหมาะกับคนไข้ที่ต้องใช้จำนวนกราฟท์ผมมาก ๆ
ปลูกผม Strip FUT
ปลูกผม Strip FUT เป็นวิธีที่ต้องแยกเซลล์ต้นกำเนิดผมจากด้านนอก โดยแพทย์จะมีการคำนวณว่าคนไข้จะต้องใช้จำนวนผมจำนวนเท่าไหร่เพื่อคำนวณพื้นที่ในการแยกหนังศีรษะค่ะ โดยความกว้างของแผลมักจะไม่เกิน 1.5-2 เซนติเมตรเพื่อให้สามารถเย็บหนังศีรษะที่เหลือให้ติดกันได้โดยไม่ตึงเกินไป เสี่ยงต่อการปริค่ะ
แพทย์จะผ่าตัดหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแล้วนำมาแยกเป็นกราฟท์ผมภายใต้กล้องจุลทรรศน์ จากนั้นจึงนำผมที่มีสภาพสมบูรณ์มาปลูกกลับไปยังบริเวณที่ต้องการ ส่วนบริเวณท้ายทอยแพทย์ก็จะเย็บปิดและรอจนแผลหายประมาณ 7-10 วันจึงจะกลับมาตัดไหมอีกครั้ง
ข้อดีของการปลูกผม Strip FUT
- กราฟท์ผมมีความสมบูรณ์ที่สุด เป็นการปลูกถ่ายย้ายเซลล์ต้นกำเนิดผมที่มีประสิทธิภาพ
- สามารถแยกกราฟท์ผมออกได้มากกว่าการปลูกผม FUE เหมาะกับคนไข้ที่ต้องการปลูกผมในพื้นที่กว้าง
- ผมบริเวณท้ายทอยจะไม่ดูบางลงเนื่องจากหนังศีรษะจะถูกเย็บติดกัน
ข้อควรระวังของการปลูกผม Strip FUT
- คนไข้จะมีแผลยาวที่ท้ายทอย และทำให้คนไข้ไม่มีความมั่นใจในการไว้ผมสั้น
- หากคนไข้มีหนังศีรษะตึงเกินไปอาจไม่เหมาะกับการใช้วิธีนี้ เนื่องจากจะทำให้การเย็บหนังศีรษะทำได้ยาก
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ปลูกผม FUT
ปลูกผม DHI
Direct hair implant หรือการปลูกผม DHI เป็นเทคนิคในการนำผมที่แยกออกมาแล้วปลูกกลับไปยังบริเวณที่ต้องการแก้ปัญหา โดยใช้เครื่องมือที่ทำให้เซลล์ต้นกำเนิดผมและหนังศีรษะเสียหายน้อยที่สุดเพื่อให้มีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น
ข้อดีของการปลูกผม DHI
- เครื่องมือพิเศษสำหรับการปลูกผม DHI จะช่วยลดความเสียหายของผม ทำให้สามารถคงคุณภาพของผมได้มากที่สุด
- ช่วยลดเวลาในการปลูกผมลง
ข้อควรระวังของการปลูกผม DHI
- ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์สูง
ที่ Dr.Tarinee Hair Clinic เราใช้วิธีปลูกผม DHI ในการปลูกผมกลับไปอยู่แล้ว ทำให้อัตราความสำเร็จจากที่คลินิกของเราสูงขึ้นค่ะ
สนใจศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกผม DHI เพิ่มเติม สามารถอ่านได้ที่ : ปลูกผม DHI
นอกจากนี้ยังมีอีกวิธีที่เหมาะกับผู้ที่กำลังจะมีปัญหาสุขภาพเส้นผมอ่อนแอโดยที่ไม่ต้องผ่าตัดอย่างการทำ LLLT ค่ะ
ปลูกผม LLLT
Low level laser light therapy หรือการปลูกผม LLLT เป็นการใช้เลเซอร์แสงสีแดงที่ความยาวคลื่น 633 นาโนเมตร มีคุณสมบัติในการเพิ่มการไหลเวียนเลือดบริเวณหนังศีรษะ เมื่อเซลล์ต้นกำเนิดผมได้รับสารอาหารจากเลือดเพียงพอจึงเป็นการช่วยให้เกิดการขึ้นใหม่ของเส้นผม เพิ่มความแข็งแรงแก่เส้นผมที่งอกใหม่ ลดการขาดหลุดร่วงนั่นเองค่ะ
ข้อดีของการปลูกผม LLLT
- ปลูกผม LLLT เป็นหัตถการที่ทำได้ง่ายเนื่องจากไม่ต้องผ่าตัดใด ๆ เพียงแค่ฉายแสงเลเซอร์ลงบนหนังศีรษะเท่านั้น
- สามารถทำได้บ่อยครั้ง ให้ผลลัพธ์ที่ดีเมื่อทำหัตถการอย่างต่อเนื่อง นิยมทำหัตถการปลูกผม LLLT หลังการทำปลูกผม FUT หรือ FUE
- ผมข้างเคียงต่ำ ไม่รู้สึกเจ็บขณะหัตถการ ราคาประหยัด
ข้อควรระวังของการปลูกผม LLLT
- ปลูกผม LLLT สามารถกระตุ้นเซลล์ต้นกำเนิดผมที่อ่อนแอให้ขึ้นมาได้แข็งแรงขึ้น แต่ไม่สามารถกระตุ้นผมที่ตายไปแล้วให้กลับมาแอคทีฟอีกครั้งได้ค่ะ จึงไม่เหมาะกับคนไข้ที่ไม่มีเซลล์ต้นกำเนิดผมหลงเหลืออยู่เนื่องจากหัตถการนี้จะไม่ช่วยให้ผมกลับมางอกได้นั่นเอง
ขั้นตอนและวิธีการปลูกผมถาวร
การปลูกผมถาวรจะมีขั้นตอนดังนี้
- อันดับแรกคนไข้จะต้องพบแพทย์เพื่อประเมินสภาพหนังศีรษะและเส้นผม แพทย์จะประเมินว่าสามารถและเหมาะสมต่อการปลูกผมหรือไม่ จะใช้วิธีแบบไหนจึงจะเหมาะกับคนไข้ที่สุด
- เมื่อแพทย์ประเมินแล้วว่าสามารถใช้หัตถการปลูกผมมาแก้ปัญหาได้ก็จะมีการแนะนำถึงวิธีการทำ ผลลัพธ์หลังรักษา ข้อควรระวังและผลข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างละเอียด
- เมื่อคนไข้พร้อมเข้ารับการปลูกผมแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะเข้ามาทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะด้วยแชมพูฆ่าเชื้อ หลังจากนั้นอาจมีการถ่ายภาพก่อนการทำ เพื่อติดตามผลการรักษา
- แพทย์จะวาดแนวผมที่ต้องการปลูกผมลงไปเพื่อนำพื้นที่ไปคำนวณปริมาณผมที่ต้องใช้และเป็นการออกแบบแนวผมให้เหมาะกับรูปหน้าของคนไข้ โดยที่คนไข้สามารถร่วมออกแบบแนวผมหรือไรผมกับแพทย์ได้ หากมีจุดไหนที่ต้องการเสริมหรือแก้ไขก็สามารถแจ้งแพทย์ได้เลย และเมื่อวาดแนวผมเสร็จแพทย์จะถ่ายภาพหนังศีรษะอีกครั้งก่อนเริ่มทำหัตถการ
- เมื่อทุกอย่างพร้อม แพทย์จะเริ่มให้ยาชาเฉพาะที่แก่คนไข้เพื่อลดความรู้สึกเจ็บปวดขณะทำหัตถการ แพทย์จะให้คนไข้นอนคว่ำหน้าเพื่อเตรียมย้ายเซลล์ต้นกำเนิดผมออกมา
- สำหรับการปลูกผม FUT แพทย์จะเริ่มผ่าตัดหนังศีรษะและแยกกราฟท์ผมในลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้าความกว้างประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร ความยาวขึ้นอยู่กับว่าจะต้องใช้จำนวนกราฟท์เท่าไหร่ จากนั้นแพทย์ก็จะมาแยกผมออกจากหนังศีรษะที่แยกออกมาภายใต้กล้องจุลทรรศน์
- สำหรับการปลูกผม FUE แพทย์จะเจาะกราฟท์ผมจากท้ายทอยออกทีละกอโดยใช้เครื่องมือและเทคนิคเฉพาะเพื่อให้ได้ผมออกมาสภาพสมบูรณ์ที่สุดสำหรับนำไปเป็นวัตถุดิบในการปลูกผมค่ะ
- ระหว่างรอปลูกกลับ กราฟท์ผมที่แยกมาก่อนจะถูกแช่อยู่ในน้ำยาแช่ ซึ่งจะช่วยคงคุณภาพของผมไม่ให้เซลล์ต้นกำเนิดผมตายไประหว่างที่อยู่ภายนอกร่างกายค่ะ
- หลังจากเก็บเกี่ยวเซลล์ต้นกำเนิดผมเสร็จเป็นที่เรียบร้อย แพทย์อาจให้คนไข้พักรับประทานข้าวก่อนจะไปสู่ขั้นตอนต่อไป
- เมื่อพักเป็นที่เรียบร้อย แพทย์ก็จะฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณที่ต้องปลูกผมกลับไปค่ะ จากนั้นก็จะใช้เครื่องมือในการเจาะเพื่อนำกราฟท์ผมที่แยกออกมาในตอนแรกกลับเข้าไปบนหนังศีรษะ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมงขึ้นกับพื้นที่ที่ต้องทำค่ะ
- หลังจากนำกราฟท์ผมทั้งหมดกลับไปบนหนังศีรษะเป็นที่เรียบร้อย แพทย์ก็จะให้คนไข้ได้รับการฉายแสงจากเครื่อง Heallite หรือ LLLT เพื่อให้แผลหายเร็วขึ้นค่ะ
- คนไข้สามารถกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านและกลับมารับการฉายแสงซ้ำในวันถัดไปและอีกสองวันหลังจากนั้น
ผลลัพธ์ของการปลูกผม กี่วันถึงจะเห็นผล
หลังปลูกผมไปแล้วในช่วงแรกเป็นช่วงที่สำคัญมาก ๆ เนื่องจากกว่าผมจะติดและฝังตัวกับหนังศีรษะของเราดีจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์เป็นอย่างน้อยค่ะ หากระหว่างนี้มีผมหลุดร่วงก่อนจะถึง 2 สัปดาห์นั่นอาจหมายความว่าเซลล์ต้นกำเนิดผมอาจหลุดตามไปด้วย
แต่หลังจากที่ผมติดและฝังตัวดีแล้วก็อาจพบปัญหาผมร่วงหลังจากนี้ได้ ซึ่งการหลุดร่วงนี้เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ และผมจะเข้าสู่ระยะพักตัวก่อนที่จะกลับมาขึ้นใหม่อีกครั้งหลังจากผ่านไป 4-8 เดือนค่ะ
ปลูกผม สามารถทำควบคู่กับวิธีอื่นได้ไหม
เราสามารถปลูกผมร่วมกับการรักษาแบบอื่น ๆ ได้ค่ะ และคุณหมอแนะนำว่าควรจะทำเพื่อให้เห็นผลมากยิ่งขึ้น โดยหัตถการที่นิยมทำควบคู่กัน มีดังนี้
- การฉายแสงเลเซอร์ LLLT ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้เส้นผมสามารถขึ้นใหม่ได้เร็วขึ้น
- การทำ HairStem หรือ stemcell และ PRP ช่วยบำรุงเซลล์ต้นกำเนิดผมมีความแข็งแรง ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
- การใช้ยาทาหรือรับประทานยาร่วมกัน สำหรับคนไข้ที่มีภาวะผมบางกรรมพันธุ์ และมีโอกาสที่ผมบริเวณที่ไม่ได้ผ่านการปลูกผมจะร่วงและทำให้ผมภาพรวมดูบางลง
วิธีเตรียมตัว ก่อนปลูกผม
- หาวันมาปรึกษาแพทย์วางแผนการรักษาร่วมกันรวมถึงวางแผนนัดวันผ่าตัด และดูว่าหลังทำมีงานสำคัญต้องทำ หรือมีกิจกรรมที่ต้องโดนแดด หรือดำน้ำหรือไม่ จะได้เลี่ยงไปก่อน
- เมื่อกำหนดวันที่ต้องการทำได้ งดยาที่อาจจะมีผลต่อการผ่าตัด เช่น ยาละลายลิ่มเลือด แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันตับปลา สมุนไพรgingko หรือใบแปะก๊วย อย่างน้อย 7 วันก่อนผ่าตัด
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ประวัติการแพ้ยาชาก่อนและหลังการปลูกผม 48 ชั่วโมง
- แจ้งโรคประจำตัว การใช้ยา และประวัติแพ้ยา หรือให้แพทย์ทราบก่อนทุกครั้ง
- คนไข้สามารถการย้อมสีผมก่อนวันผ่าตัด 1-2 วันได้
- ไม่ต้องงดน้ำงดอาหาร ทานอาหารเช้าได้ตามปกติ นอนพักผ่อนให้เต็มที่ ในวันที่ทำจะมีพักทานข้าวเที่ยงโดยทางคลินิกจะจัดเตรียมให้ สามารถแจ้งได้เลยว่าแพ้อาหารใด หรือไม่ทานอะไรบ้าง
- แนะนำว่าควรมีผู้ดูแลมาด้วยในวันผ่าตัด และไม่ควรขับรถมาเอง เนื่องจากอาจจะสะลึมสะลือหลังทำ
- ใส่เสื้อคอกว้างหรือผ่าหน้ามาจะได้ถอดส้วมสบายหลังผ่าตัด
วิธีดูแลตัวเอง หลังปลูกผม
การปลูกผมจะประสบความสำเร็จดีหรือไม่หลายครั้งมักขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังทำหัตถการค่ะ เนื่องจากในช่วงแรกที่เพิ่งปลูกถ่ายลงบนบริเวณที่ต้องการยังไม่เกิดการฝังตัวดี มีโอกาสที่เซลล์ต้นกำเนิดผมนี้จะหลุดออกไปก่อนและทำให้บริเวณนั้นไม่มีเส้นผมขึ้นมาใหม่นั่นเอง
จะดูแลตัวเองอย่างไรให้เพิ่มโอกาสสำเร็จมากขึ้น คุณหมอและเจ้าหน้าที่มักจะแนะนำข้อปฏิบัติดังนี้
- ในช่วงวันแรก ๆ 1-5 วันหลังปลูกผม แพทย์จะนัดคนไข้มาดูสภาพแผล แพทย์จะทำความสะอาดแผล ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะให้ คนไข้ห้ามสระผมเองในช่วงนี้เนื่องจากมีโอกาสที่ผมจะหลุดสูง
- หลังจากที่แพทย์อนุญาตให้คนไข้สระผมเองแล้วแนะนำว่าให้ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนหรือแชมพูเด็กอย่างน้อย 1 เดือน
- รับประทานยาฆ่าเชื้อที่แพทย์จ่ายให้ ให้ครบโดสเพื่อป้องกันการติดเชื้อและการดื้อยาฆ่าเชื้อในอนาคต
- หากมีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดวันละ 1 เม็ดในช่วง 3 วันแรกเพื่อลดการปวดแผลได้
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ก่อนและหลังทำหัตถการ อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
- งดกิจกรรมใด ๆ ที่ทำให้เหงื่อออกหรือสัมผัสกับน้ำอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังทำ
- สามารถตกแต่งทรงผมด้วยเจลหรือสเปรย์หลังทำไปแล้ว 1 สัปดาห์, ตัดแต่งทรงผม 2 สัปดาห์ และการย้อมสีผม 1 เดือน
- แพทย์จะนัดคนไข้มาดูผลและติดตามอาการในช่วง 1-5 วันแรก และจะเพิ่มการนัดเป็นทุก ๆ 1 เดือนจนครบ 6 เดือน และหลังจากนั้นจะนัดทุก ๆ 3 เดือนจนครบ 1 ปี-1 ปีครึ่งค่ะ
- หากพบความผิดปกติ เช่น เลือดออกมาก หนังศีรษะไม่มีความรู้สึก ปวดแผลมาก ให้รีบมาพบแพทย์ทันที
อาการข้างเคียงหลังการปลูกผม
หลังปลูกผมอาจพบผลข้างเคียงได้เป็นเรื่องปกติสำหรับหัตถการศัลยกรรมนี้ค่ะ แต่อย่างไรก็ตามผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นมักจะเป็นผลข้างเคียงที่ไม่เป็นอันตราย สามารถหายได้เอง จึงไม่ต้องกังวลมากนัก โดยผลข้างเคียงที่พบได้มีดังนี้
- แผลมีเลือดไหลซึม โดยการซึมของแผลจะไม่มากจนท่วมผ้าพันแผล แต่หากเลือดซึมมากจนท่วมควรมาพบแพทย์ทันที
- มีอาการปวดแผล หนังศีรษะตึง หน้าผากหนังตาบวม สิ่งหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 5-7 วัน สามารถใช้การนอนหมอนสูงเพื่อลดการไหลของเลือด
- คันบริเวณที่ปลูกผม ห้ามแกะหรือเกา เนื่องจากอาจทำให้ผมหลุดออกมาด้วย โดยอาการคันจะค่อย ๆ ดีขึ้นหลังจากที่หายสนิทดีค่ะ
- คนไข้บางรายอาจพบตุ่มหนองอักเสบที่รูขุมขน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการอักเสบหรือติดเชื้อเล็กน้อย สามารถทายาหรือรับประทานยาฆ่าเชื้อเพื่อรักษาได้ค่ะ
- ผมร่วงหลังจากปลูกผมไปสักพัก โดยผมที่ปลูกไปอาจหลุดร่วงได้เป็นปกติตามวงจรชีวิตของเส้นผม แต่หลังจากผ่านไปประมาณ 4-8 เดือนผมก็จะกลับมาใหม่อย่างแข็งแรงค่ะ
ปลูกผม ราคาเท่าไหร่
การปลูกผมตามคลินิกและโรงพยาบาลทั่วไปจะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 80-350 บาทต่อกราฟท์ผม ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้และจำนวนกราฟท์ทั้งหมดที่ต้องใช้ รวมถึงประสบการณ์ของแพทย์แต่ละท่านก็มีผลต่อราคาเช่นกันค่ะ
ที่ Dr.Tarinee Hair Clinic เรามีอัตราค่าบริการ ราคาเริ่มต้นที่ 100 บาทต่อกราฟท์ผม หรือเริ่มต้นที่ 69,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้และจำนวนกราฟท์ผมที่ต้องใช้ในการรักษาค่ะ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ ปลูกผมราคาเท่าไหร่
ปลูกผมที่ไหนดี
คลินิกและโรงพยาบาลมีมากมาย แล้วเราควรจะเลือกปลูกผมที่ไหนดี? คุณหมอแนะนำว่าเราไม่ควรจะพิจารณาจากราคาอย่างเดียวเท่านั้น แต่ควรจะพิจารณาจากปัจจัยอื่น ๆ ด้วยเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเงินที่เปล่าประโยชน์ค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ประสบการณ์ของแพทย์ มาตรฐานของโรงพยาบาลและคลินิกนั้น ตัวเลือกวิธีการและเทคนิคที่หลากหลายให้เป็นทางเลือกที่เหมาะที่สุดแก่คนไข้ เป็นต้น
ที่ Dr.Tarinee Hair Clinic โดยคุณหมอแก้ว แพทย์หญิง ธาริณี ก่อวิริยกมล เจ้าของคลินิกและแพทย์ประจำคลินิก แพทย์เฉพาะทางโรคเส้นผมและหนังศีรษะ และศัลยกรรมปลูกผม ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปีและผ่านคนไข้มามากกว่า 3,000 เคส ทำให้คุณหมอแก้วมีความชำนาญในการรักษาเป็นอย่างมาก ไร้ความกังวลเรื่องปัญหาแทรกซ้อน ที่คลินิกของคุณหมอจะดูแลโดยแพทย์ทุกเคส มั่นใจในเรื่องการดูแลคนไข้อย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะบริการดูแลคนไข้ด้วยใจ
รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปลูกผม
ผมร่วง ผมบาง และหัวล้าน เกิดจากอะไร
เซลล์ต้นกำเนิดผมเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เส้นผมงอกผ่านทางรูขุมขนออกมาสู่ภายนอก เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่อาจมีการหลุดร่วงและเข้าสู่ระยะพักผมก่อนจะกลับมางอกใหม่อีกครั้งตามวงจรชีวิตของเส้นผม แต่เมื่ออายุมากขึ้นหรือมีกรรมพันธุ์ผมบาง หรืออิทธิพลของฮอร์โมนจะทำให้เซลล์ต้นกำเนิดผมอ่อนแอลง เส้นผมที่เกิดใหม่จะเส้นเล็กและหลุดง่ายขึ้น เข้าสู่ระยะพักนานกว่าเดิม จนเมื่อเซลล์ต้นกำเนิดผมตายลงก็จะไม่มีการงอกของเส้นผมอีก
กราฟท์ (Graft) คืออะไร สำคัญอย่างไรกับการปลูกผม
กราฟท์คือคำเรียกกอผมที่มีเซลล์ต้นกำเนิดผมติดอยู่ไว้ใช้สำหรับเป็นวัตถุดิบในการปลูกผม โดยผม 1 กออาจมีจำนวนเส้นผมต่างกันไป ส่วนใหญ่มักจะพบเส้นผม 1-4 เส้นต่อกราฟท์ผม 1 กอ ซึ่งมีความสำคัญมากเนื่องจากเป็นส่วนที่มีเซลล์ต้นกำเนิดผม หากจำนวนกราฟท์ผมน้อยก็จะทำให้การกระจายความห่างของผมมากขึ้น เพื่อให้เส้นผมที่ปลูกขึ้นมาใหม่หนาแน่นเป็นธรรมชาติที่สุดแพทย์จะต้องคำนวณปริมาณกราฟท์ผมที่เหมาะสมด้วย
ปลูกผมแล้วขึ้นจริงไหม
การปลูกผมเป็นวิธีปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดผมจากบริเวณที่มีความแข็งแรงและไม่มีอิทธิพลของฮอร์โมนมาเกี่ยวข้องย้ายมาบริเวณที่ต้องการ โดยส่วนใหญ่หากแพทย์มีความชำนาญและประสบการณ์มากพอที่จะนำกราฟท์ผมออกมาและปลูกกลับไปได้อย่างสมบูรณ์ โอกาสที่จะสำเร็จก็สูงมากและยังมีผลข้างเคียงน้อยอีกด้วย
ปลูกผมมีความอันตรายไหม
การปลูกผมเป็นหัตถการที่ปลอดภัยสูง และถึงแม้จะพบผลข้างเคียงหลังทำหัตถการบ้างก็มักจะเป็นผลข้างเคียงที่ไม่เป็นอันตรายมากนัก แต่หากคนไข้มีประวัติแพ้ยาชา หรือมีการติดเชื้อก็อาจพบอันตรายถึงชีวิตได้ซึ่งก่อนทำหัตถการแพทย์จะต้องสอบถามและซักประวัติคนไข้เพื่อความปลอดภัยอยู่แล้ว
ปลูกผมอยู่ถาวรไหม
การปลูกผมสามารถช่วยให้ผมกลับมาขึ้นใหม่ได้อย่างถาวร ถึงแม้จะมีหลุดร่วงหรือผ่านการตัด โกน ถอนบ้างแต่เส้นผมก็สามารถขึ้นใหม่ตามวงจรชีวิตของเส้นผมค่ะ
ปลูกผมต้องโกนผมไหม
เพื่อให้สามารถแยกกราฟท์ผมออกมาได้ง่ายขึ้นแพทย์อาจต้องโกนผมคนไข้เฉพาะบริเวณที่ต้องรักษาค่ะ แต่ก็มีเทคนิคที่ไม่จำเป็นต้องโกนผมอย่าง Long hair FUE โดยใช้เครื่องมือพิเศษที่สามารถเจาะกราฟท์ผมได้ทั้ง ๆ ที่เส้นผมยาวประกอบกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและประสบการณ์มาก ทำให้หลังปลูกผมคนไข้จะไม่มีร่องรอยโกนผม ให้ผมดูยาวเป็นธรรมชาติไม่เหมือนผ่านการปลูกผมมานั่นเอง
ปลูกผมมีรอยแผลเป็นไหม
สำหรับการปลูกผม FUE ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดหนังศีรษะจะมีแผลขนาดเล็กกว่า 1 มิลลิเมตรทำให้หลังแผลหายดีจะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นที่สังเกตได้ชัดเจนไว้ค่ะ แต่สำหรับการปลูกผม FUT ที่ต้องผ่าตัดเพื่อแยกกราฟท์ผม หลังหายดีอาจทิ้งรอยแผลเป็นเป็นแถบยาวได้
ปลูกผมใช้เวลาพักฟื้นกี่วัน
สำหรับการปลูกผม FUE คนไข้สามารถใช้ชีวิตหลังทำหัตถการได้เลย เพียงแต่อาจต้องระวังไม่ให้แผลโดนน้ำหรือแกะเกาบริเวณนั้น แต่สำหรับการปลูกผม FUT ที่มีแผลขนาดกว้าง อาจต้องพักฟื้นประมาณ 7-14 วันจนกว่าจะหายดี
ปลูกผมแล้วผมจะร่วงอีกไหม
หลังจากปลูกผมแล้วผมอาจหลุดร่วงในช่วงประมาณ 1 เดือนหลังทำ ซึ่งการหลุดร่วงนี้จะเป็นไปตามวงจรชีวิตเส้นผมและสามารถกลับมาขึ้นใหม่อีกครั้งอย่างแข็งแรงค่ะ หลังจากนั้นเส้นผมอาจร่วงได้อีกแต่จากผลวิจัยเส้นผมที่มีเซลล์ต้นกำเนิดผมที่แข็งแรงก็จะทำให้เส้นผมกลับมาขึ้นใหม่ได้อีกครั้งค่ะ
ปลูกผมกี่วันถึงสระผมได้
หลังจากปลูกผมไปแล้วในวันรุ่งขึ้นแพทย์จะนัดคนไข้มาสระผมโดยมีเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการอบรมเป็นผู้ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะให้
แนะนำคลินิกปลูกผม “Dr.Tarinee Hair Clinic”
การปลูกผมเป็นหนึ่งในหัตถการศัลยกรรมเพื่อรักษาภาวะผมร่วง ผมบางที่ทำให้คนไข้หมดความมั่นใจในตนเองได้กลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง การปลูกผมสามารถทำเพียงครั้งเดียวก็อยู่ได้อย่างถาวร เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการทำที่ดีที่สุดควรจะเลือกคลินิกที่ดี โดยพิจารณาจากปัจจัยหลาย ๆ ด้านอย่างรอบคอบจะดีที่สุดค่ะ
หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ต้องการปรึกษาเกี่ยวกับการปลูกผมกับคุณหมอ สามารถติดต่อได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ คุณหมอยินดีให้คำปรึกษาค่ะ
Website : Dr.Tarinee Hair Clinic
Line : @drtarinee
Facebook : Dr.Tarinee Hair Clinic ปลูกผม รักษา ผมร่วง ผมบาง
อ้างอิง
Dua, A & Dua, K. (2010). Follicular Unit Extraction Hair Transplant. Journal of Cutaneous and Aesthetic Surgery, 3(2): 78-81. doi: 10.4103/0974-2077.69015
Jewell, T. (2020, July 14). Everything to Know About a FUE Hair Transplant. Healthline. https://www.healthline.com/health/cosmetic-surgery/everything-to-know-about-a-fue-hair-transplant
Jiménez-Acosta, F. (2010). Follicular Unit Hair Transplantation: Current TechniqueTécnica actual del trasplante de pelo de unidades foliculares. Actas Dermo-Sifiliográficas (English Edition), 101(4): 291-306. https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1578219010706399
Yetman, D. (2020, June 30). What You Need to Know About Follicular Unit Transplantation (FUT). Healthline. https://www.healthline.com/health/fut-hair-transplant
Yoo, HK. Moh, JS. & Park, JU. (2019). Treatment of Postsurgical Scalp Scar Deformity Using Follicular Unit Hair Transplantation. BioMed Research International, 3423657. https://doi.org/10.1155/2019/3423657